6.3.14

so PROUD




     สิ่งที่ได้รับจากการทำนิตยสารพราวด์ ซึ่งเป็นนิตยสารที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนิสิตนักศึกษา โดยนำเสนอในรูปแบบเรื่องราวไลฟ์สไตล์ของคนวัยรุ่น ส่วนแก่นหรือตีมหลักเป็นความภูมิใจในชุดนิสิตนักศึกษา เพื่อสะท้อนให้เห็นความสำคัญและความคิดของคนวัยนี้ และในการลงมือทำนิตยสารร่วมกันในครั้งนี้ ทำให้ผมได้รับอะไรหลาย ๆ อย่าง 
อย่างแรกเลยคือ วิธีการเขียนของผมได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นระดับหนึ่ง เพราะผมได้รับหน้าที่ให้เป็นนักเขียน ซึ่งจริง ๆ แล้ว คำว่านักเขียนเหมือนเป็นสิ่งที่ค้ำคอผมอยู่ เหมือนคอยหลอกหลอนผมให้ “เขียนดี ๆ นะ” ผมเลยต้องตั้งใจทำหน้าที่นี้เป็นพิเศษ โดยเริ่มสนใจที่จะอ่านหนังสือมากขึ้น เพื่อค้นหาคำหรือประโยคดี ๆ ในการนำมาใช้ในนิตยสารตัวเอง ฟังดูเหมือนลอกแต่จริง ๆ แล้ว มันคือการเรียนรู้ที่ดี ซึ่งเทคนิคนี้ผมไม่ได้คิดเองแต่ได้มาจากการไปสัมภาษณ์พี่นักข่าวคนหนึ่ง ที่จบมาจากคณะนิเทศาสตร์แล้วพี่เขาก็เล่าให้ฟังถึงการทำงานนิตยสาร ทำให้ผมสะท้อนได้ถึงแง่คิดและเทคนิคต่าง ๆ ในการทำงาน อีกทั้งการได้ บ.ก. มาช่วยตรวจทาน แก้ไขคำที่ผิดหรือการใช้ประโยคที่ติดปากคนเขียนเกินไป ทำให้งานเขียนออกมาดียิ่งขึ้น โดยผมจะสลับหน้าที่กับ บ.ก. หากเป็นงานเขียนของ บ.ก. เอง 
อย่างที่สองคือ การได้ลงพื้นที่ทำงาน ได้พบเจอคนที่มีความคิดต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมันไม่ได้มีโอกาสแบบนี้บ่อยครั้ง เพราะเราต้องไปสัมภาษณ์คนนู้นคนนี้ ประสานงานกับที่นั่นที่นี่ ซึ่งแน่นอนผมกล้าที่จะพูดหรือกล้าที่จะแสดงออกทางความคิดมากขึ้น อย่างเช่นเราต้องชวนคนสัมภาษณ์คุยบ้าง เพื่อให้เขาดึงความเป็นตัวเองออกมามากที่สุด โดยไม่เคอะเขิน ทำให้เราได้รับคำตอบที่จริงและเป็นตัวตนที่สุด

อย่างที่สามคือ การได้เรียนรู้การถ่ายภาพจากช่างภาพประจำกลุ่ม จากการได้ลองถือแฟลชถ่ายตัวแบบเพื่อดูองศาของการสาดแสงไฟให้ถูกต้อง ทำให้ผมรู้ว่าแต่ละภาพมันไม่ง่ายเลย โดยกว่าจะได้แต่ละรูปต้องถ่ายแล้วถ่ายอีก ลองแล้วลองอีก กว่าภาพจะออกมามีอารมณ์มีความหมายในตัวเอง ตรงกับที่ต้องการ
อย่างที่สี่คือ การได้ลองทำโปรแกรมอินดีไซน์ จนทำให้ผมพอที่จะรู้จักเครื่องมือ รู้จักการวางเลย์เอาท์รู้จักการเซฟงานที่ถูกต้องหรือแม้แต่การส่งออก เพราะทุกอย่างต้องคำนึงถึงความเป็นตีมเดียวกัน ขนาดเดียวกัน และการเลือกค่าของสีที่ต้องเหมือนกันอีกด้วย โดยมีกราฟฟิกประจำกลุ่มและ บ.ก. เป็นผู้ให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี

อย่างสุดท้ายคือ การได้ทำงานร่วมกันกับเพื่อนที่ไม่ค่อยได้ร่วมงานกันมาก่อน ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมเหนื่อยไปด้วยกัน ซึ่งนำไปสู่ความสามัคคีกันภายในกลุ่ม ทำให้งานออกมาสำเร็จ จนเมื่อได้เห็นนิตยสารในวันนี้ ทุกหน้าทุกอย่างเหมือนเตือนความทรงจำทุกวินาทีจริง ๆ ว่าเราได้ผ่านอะไรมาบ้างอย่างเช่น ภาพคืนนั้นวันที่พวกเราค้างคืนที่มหาลัยมาหมด จนตอนนี้ก็ยังสงสัยว่าทำไปได้ยังไงกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมและทุกคนรู้สึกภูมิใจและหายเหนื่อยในทันที โดยผมหวังว่าผู้อ่านจะเปิดใจรับและชอบมันบ้างไม่มากก็น้อย หากไม่ชอบได้โปรดเห็นใจเพราะนี่คือการเริ่มต้นที่ดีของพวกเรา ฝากด้วยครับ แล้วมาร่วมพราวด์...ไปด้วยกัน