7.9.13

ฝึกงานในแบบศึกษาเทคโน

เมื่อวันอังคารที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้รับมอบหมายงานให้ไปฝึกงานเพื่อเรียนรู้การจัดการการบริหารงานในสำนักสื่อที่ให้บริการด้านการศึกษา โดยในวันนั้นได้ไปที่สำนักสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา มศว ที่ตึกไข่ดาว
        วันนั้นภายในกลุ่มผมก็มาถึงกันประมาณแปดโมงครึ่ง และเริ่มฝึกงานกันตอนเก้าโมง เริ่มต้นพี่ๆ ในสำนักสื่อก็ได้เล่าถึงหน้าที่ในการทำงานว่ามีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการห้องเรียน การเตรียมอุปกรณ์ทางการเรียน การจัดซื้อสื่อหรืออุปกรณ์ วิธีการใช้สื่อ วิธีการทำงานของกล้องวงจรปิด พอพี่เล่าไปได้สักพักไฟก็ดับ ทุกคนตกใจมาก เลยรีบหาสาเหตุ ปรากฏว่าดับมาจากภายนอก ทำให้พวกเราได้รับมอบหมายงานให้ไปแจ้งกับแต่ละห้องเรียนที่กำลังเรียนอยู่ พร้อมทั้งเปิดม่านและเปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศ ทำให้ผมได้เห็นการแก้ปัญหาของที่นี่ หลังจากนั้นเมื่อไฟมา พี่ๆ ก็ให้พวกเราไปตรวจเช็คแต่ละห้องเรียน พร้อมทั้งปิดม่าน ปิดหน้าต่าง เมื่อเสร็จแล้วพวกพี่ก็บอกให้เราไปพัก พวกเราก็งงว่าทำไมให้ไปพักไวจัง พี่สำนักสื่อก็บอกว่า เราต้องมาเตรียมงานก่อนเที่ยง เพื่อเตรียมห้องเรียนให้กับผู้เรียนที่จะเข้ามาเรียนในตอนบ่ายโมงครึ่ง พวกเราก็คลายความสงสัย หลังจานั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปทานข้าว กลับมาในช่วงบ่าย เราก็ได้ไปตรวจเช็คความพร้อมของห้องเรียนอีกครั้ง เมื่อตรวจเช็คเสร็จทุกคนก็ได้มาที่ห้องควบคุม พวกพี่เค้าก็ให้เราดูการควบคุมระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรเจคเตอร์ คอมพิวเตอร์ หากเกิดปัญหาภายในห้องเรียน โดยที่ไม่ต้องเดินไปที่ห้องเรียน หลังจากนั้นเราได้ไปดูห้องเรียนทางไกล ที่ถ่ายสดจาก มศว ประสานมิตร ไปยัง มศว องครักษ์ และไปยังที่อื่นๆ โดยเราได้เห็นการควบคุมการทำงาน ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดรายการ ตั้งแต่การตัดต่อ การใส่กราฟิก การใส่เสียง การสวิชชิ่ง แล้วพี่ๆ ก็ให้พวกเราลองเปิดรายการกันดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่ง่ายๆ เลย ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ ทำให้เราเห็นถึงการทำงานที่เป็นระบบและตรงเวลา 




        และในวันที่สองพวกเราได้ไปฝึกงานที่โรงละครอโศกมนตรีนาฏยศาลา มศว ในเวลาสี่โมงเย็น เพื่อดูการทำงานด้านการฉายภาพยนตร์ เพราะในวันนั้นเป็นวันที่ฉายภาพยนตร์เพื่อแรงบันดาลใจ ในชื่อเรื่อง The blind side โดยพี่ๆ ได้แบ่งเราเป็นสองทีม ทีมแรกอยู่ในห้องควบคุม ทีมที่สองจะอยู่ด้านล่างในโรงภาพยนตร์เพื่อเช็คภาพและเสียง โดยผมได้อยู่ข้างล่าง พร้อมทั้งต้องลองนั่งดูหนังในทุกๆ จุด เพื่อเช็คความคมชัดของภาพและเสียงว่าชัดเจนดีมั้ย แล้วจะได้แจ้งขึ้นไปยังห้องควบคุม ให้ปรับให้มีคุณภาพดีขึ้น พร้อมทั้งปล่อยคนเข้ามาในโรงภาพยนตร์



        จะเห็นได้ว่าทั้งสองสถานที่ที่ผมได้ไปฝึก ทำให้ผมได้เห็นถึงความตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการทำงานด้านนี้จะต้องคอยให้บริการสื่อแก่บุคลากร ซึ่งบุคคลากรต้องนำสื่อตรงนั้นไปทำงานต่อทำให้ความตรงเวลาสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเกิดช้าที่คนให้บริการสื่อ ก็จะช้ากันไปเป็นทอดๆ จนเป็นผลเสียถึงผู้เรียนในทันที และอีกอย่างก็คือความรับผิดชอบในการทำงาน ในหน้าที่ของตนเอง เพราะงานด้านนี้ ทุกหน้าที่สำคัญหมด ทำให้ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหน้าที่ใดเกิดบกพร่องขึ้นมา องค์กรก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จตามพันธกิจที่ตั้งไว้